ฝ้าขึ้นรา

ฝ้าขึ้นราเป็นภัยต่อสุขภาพและความปลอดภัยของบ้าน บทความนี้จะพาคุณรู้จักสาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีแก้ปัญหาแบบหายขาดที่ทำได้ด้วยตนเอง เช่น ใช้วัสดุที่กันรา

ฝ้าขึ้นรา เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในบ้านเรือน โดยเฉพาะในห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณที่มีความชื้นสูง เชื้อราไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม เพราะนอกจากปัญหาเรื่องความสวยงามแล้วยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น ทำให้เป็นภูมิแพ้หรือมีปัญหาโรคทางเดินหายใจ

ที่สำคัญเชื้อราบนเพดานอาจเป็นสัญญาณของบ้านที่ทรุดโทรมหรือเสียหาย เช่น หลังคารั่วหรือท่อน้ำรั่วซึม หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่แก้ไข อาจลุกลามไปสู่ปัญหาโครงสร้างบ้านและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมมากขึ้นในอนาคต 

บทความนี้จะมาเจาะลึกสาเหตุ วิธีแก้ และแนวทางป้องกันฝ้าเพดานเป็นเชื้อราได้อย่างตรงจุดและยั่งยืน



ลักษณะของฝ้าขึ้นราที่ควรรู้

เชื้อราอาจดูเหมือนจุดเล็ก ๆ ที่ไม่อันตราย แต่หากปล่อยไว้นานจะลุกลามจนยากต่อการจัดการ จึงควรรู้วิธีสังเกตเชื้อราเพื่อให้แก้ปัญหาได้ทันท่วงที หากพบลักษณะเหล่านี้ นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฝ้าขึ้นรา

1. คราบสีดำ เทา เขียว หรือเหลืองอมน้ำตาล บนฝ้าเพดาน

โดยเฉพาะคราบที่มีลักษณะกระจายเป็นจุด หรือคราบเป็นแนวซ้ำ ๆ ในตำแหน่งเดิม ถือเป็นลักษณะพื้นฐานของเชื้อราบนฝ้าเพดาน ซึ่งเกิดจากความชื้นและสิ่งสกปรกสะสมกัน กลายเป็นแหล่งอาหารเอื้อต่อการเติบโตของสปอร์รา โดยมากจะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ แล้วขยายวงกว้าง 

2. กลิ่นอับชื้นในห้อง แม้เปิดหน้าต่างหรือเปิดแอร์

ห้องที่มีเชื้อรามักจะมีกลิ่นอับเฉพาะตัว ซึ่งเกิดจากของเสียหรือสารอินทรีย์ที่เชื้อราปล่อยออกมาระหว่างการเจริญเติบโต กลิ่นเหล่านี้มักจะซึมซับเข้าในผนังหรือวัสดุใกล้เคียงและเป็นสัญญาณว่าพื้นที่นั้นมีความชื้นเรื้อรัง

3. ฝ้าเปื่อยยุ่ย นิ่ม หรือมีลักษณะบวม

หากฝ้าชื้นเกินไป รูปร่างอาจเปลี่ยนจากเดิม เช่น บวมเพราะดูดซับน้ำมากเกินไปหรือมีลักษณะเปื่อย ทำให้ฝ้ารับน้ำหนักของตนเองไม่ได้ อาจพบได้บ่อยในห้องน้ำหรือพื้นที่ใต้หลังคาที่ไม่มีฉนวนกันชื้น เมื่อฝ้าเปลี่ยนไปเพราะความชื้นก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดเชื้อราขึ้น

4. มีรอยแตกหรือร่องเล็ก ๆ ที่มีผงฝุ่นดำ

บางครั้งอาจคราบเชื้อราอาจไม่ได้ชัดเจน แต่มีลักษณะเป็นรอยแตกเล็ก ๆ และผงฝุ่นสีดำ ซึ่งคือกลุ่มสปอร์ราที่รอความชื้นมาช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต

ประเภทราที่มักพบได้ที่ฝ้าเพดาน ได้แก่

ราดำ 

  • ลักษณะ : จุดหรือคราบสีดำเข้ม มักพบในพื้นที่ที่มีน้ำรั่วซึมหรือเปียกชื้นต่อเนื่อง เป็นประเภทราที่พบได้บ่อยที่สุด
  • ผลกระทบ : อาจทำให้เกิดภูมิแพ้รุนแรง หอบหืด และอาการทางระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ

ตะไคร่น้ำ

  • ลักษณะ : คราบสีเขียว เป็นสาหร่ายประเภทหนึ่ง
  • ผลกระทบ : เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ

ราขาว

  • ลักษณะ : จุดหรือคราบสีขาว คล้ายคราบด่างเกลือตามผนังที่เกิดจากเกลือในวัสดุถูกกระตุ้นหรือทำให้ละลายเพราะความชื้น
  • ผลกระทบ : กระตุ้นอาการภูมิแพ้หรือหอบหืด อาจก่อปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ

สาเหตุของฝ้าขึ้นรา

ฝ้าเพดานขึ้นรา

ฝ้าขึ้นราสามารถบ่งบอกถึงปัญหาเชิงโครงสร้างและระบบภายในบ้านที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน สาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราบนฝ้าเพดานมีหลายประการ ดังนี้

1. ความชื้นสะสมในบริเวณฝ้าเพดาน

  • เกิดจากการระบายอากาศไม่ดี ทำให้ไอน้ำสะสมในฝ้าเพดาน
  • พบได้บ่อยในห้องน้ำ ห้องครัว ห้องเก็บของ หรือพื้นที่ที่ไม่มีหน้าต่าง

2. น้ำรั่วซึมจากหลังคาหรือท่อน้ำ

  • หลังคารั่วหรือท่อน้ำรั่วในบริเวณที่อยู่เหนือฝ้าเพดาน ทำให้น้ำซึมเข้าฝ้าและสะสมจนฝ้าเพดานขึ้นรา
  • มักพบหลังฤดูฝน หรือในบ้านที่ไม่ได้ซ่อมแซมหลังคาหรือท่อมานาน

3. ระบบระบายอากาศในบ้านไม่ดี

  • บ้านที่ไม่มีพัดลมดูดอากาศ หรือไม่มีช่องระบายหรือหน้าต่าง จะมีความชื้นสะสมสูงกว่าปกติโดยเฉพาะพื้นที่ปิด

4. ปลวกหรือแมลงกัดแทะจนฝ้าเสียหาย

  • เมื่อฝ้าเพดานมีรอยแหว่ง รู หรือรอยแยกเล็ก ๆ อาจกลายเป็นเส้นทางให้น้ำหรือความชื้นซึมผ่านเข้าไปสะสมได้

5. ไม่ได้ทำความสะอาดฝ้าเป็นเวลานาน

  • ฝุ่นละอองและคราบสกปรกสะสมบนฝ้าเพดานสามารถกลายเป็นอาหารของเชื้อราได้ หากมีความชื้นเพียงพอ

จุดที่มักเกิดฝ้าขึ้นราในบ้าน

ฝ้าขึ้นราเป็นปัญหาที่พบได้หลายจุดในบ้าน โดยเฉพาะบริเวณที่มีความชื้นสูงหรือระบายอากาศไม่ดี บริเวณที่ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษมีดังนี้

  • มุมห้องที่มีความชื้นสูง : เป็นบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท ทำให้ความชื้นสะสมและกลายเป็นที่เหมาะสมของเชื้อรา
  • จุดที่หลังคามีรอยรั่ว : น้ำที่รั่วซึมจากหลังคาทำให้ฝ้าเพดานเปียกชื้น ส่งผลให้ฝ้าเพดานขึ้นราได้ง่าย
  • ห้องน้ำและห้องครัวที่มีไอน้ำมาก : พื้นที่ที่มีไอน้ำสูงและระบายอากาศไม่ดี เป็นแหล่งสะสมความชื้นที่เชื้อราชอบ
  • ใกล้ท่อน้ำหรือท่อประปาที่รั่วซึม : น้ำที่ซึมออกมาจากท่อจะทำให้ผนังหรือฝ้าเพดานบริเวณนั้นชื้นและเกิดราได้
  • พื้นที่ใต้หลังคาที่ระบายอากาศไม่ดี : ความร้อนและความชื้นสะสมบริเวณนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเชื้อราได้หากไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี 
  • บริเวณอื่น ๆ ที่ระบายอากาศไม่ดี : อากาศที่ไม่หมุนเวียนทำให้ความชื้นสะสมจนฝ้าเป็นเชื้อราในที่สุด

แก้ปัญหาฝ้าขึ้นรา ทำอย่างไรไม่ให้ราขึ้นซ้ำ

ฝ้าขึ้นรา วิธีแก้

ฝ้าขึ้นรา วิธีแก้มีมากมายโดยต้องแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นตอ ไม่ใช่แค่เช็ดออกหรือทาสีทับเพราะราจะขึ้นซ้ำในเวลาไม่นาน วิธีแก้ที่ได้ผลดี เช่น

ทำความสะอาดเชื้อราบนฝ้าเพดานให้หมดจด

ขั้นตอนแรกในการจัดการกับเชื้อราคือการทำความสะอาดราที่มีอยู่ให้หมดจด โดยสามารถใช้สารฟอกขาวหรือสารฆ่าเชื้อราโดยเฉพาะ ฉีดพ่นลงบนบริเวณที่เป็นรา แล้วใช้แปรงขนอ่อนขัดเบา ๆ จากนั้นเช็ดให้แห้งและเปิดพัดลมหรือหน้าต่างเพื่อให้บริเวณนั้นแห้งสนิท ควรสวมถุงมือและหน้ากากเพื่อป้องกันการสูดดมหรือสัมผัสสารเคมีโดยตรง

ตรวจสอบแหล่งความชื้นหรือน้ำรั่วจากด้านบน

การขจัดเชื้อราออกจากฝ้าเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ หากต้นเหตุของความชื้นหรือน้ำที่รั่วซึมยังไม่หายไป ดังนั้น ควรตรวจสอบระบบหลังคา รางน้ำ ท่อน้ำ หรือห้องน้ำชั้นบนว่ามีจุดรั่วซึมหรือไม่ หากพบควรซ่อมแซมทันที ไม่อย่างนั้นความชื้นจะกลับมาและเชื้อราจะเติบโตซ้ำอีกครั้ง

เปลี่ยนฝ้าเพดานที่เสียหายอย่างถาวร

หากฝ้าเพดานบวม เปื่อย หรือมีราฝังลึกจนไม่สามารถขจัดออกได้ ควรเปลี่ยนฝ้าเพดานใหม่ทั้งแผ่น เพราะฝ้าที่เสียหายเหล่านี้มักจะเป็นแหล่งสะสมความชื้นและสปอร์ของเชื้อรา ซึ่งจะกลับมาเติบโตได้อีกแม้ทำความสะอาดแล้ว การเปลี่ยนฝ้าใหม่จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาระยะยาว


5 วิธีป้องกันฝ้าขึ้นรา แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ป้องกันฝ้าเป็นเชื้อราไม่ใช่เรื่องยาก โดยสามารถทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเชื้อราจนต้องเสียค่าซ่อมแซมซ้ำ ๆ 

1. ตรวจเช็กระบบหลังคาและท่อน้ำสม่ำเสมอ

การตรวจสอบระบบหลังคาและท่อน้ำอย่างสม่ำเสมอถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันรา หลังคาที่รั่วซึมหรือท่อน้ำแตกสามารถทำให้เกิดความชื้นสะสมในเพดานและผนัง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเชื้อรา 

นอกจากนี้การตรวจเช็กหลังคาในฤดูกาลฝนหรือหลังฝนตกหนัก จะช่วยให้พบจุดรั่วซึมได้ทันเวลาและซ่อมแซมก่อนเกิดปัญหา รวมถึงตรวจสอบท่อประปา ท่อระบายน้ำในบ้านให้ไม่มีรอยแตกรั่วเพื่อไม่ให้น้ำซึมเข้าสู่ฝ้าเพดานและผนัง

2. ระบายอากาศสม่ำเสมอ

บริเวณที่มักเกิดราบ่อย เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือห้องเก็บของ ควรติดตั้งพัดลมดูดอากาศหรือเปิดช่องระบายลมเพื่อให้อากาศหมุนเวียนและลดความชื้นสะสมภายในห้อง หากเป็นพื้นที่ปิด ไม่มีหน้าต่าง ควรเปิดพัดลมอย่างน้อยวันละ 15 – 30 นาที เพื่อช่วยลดความชื้นและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. หมั่นดูแลบ้านและทำความสะอาดเป็นประจำ

การทำความสะอาดบ้านเป็นประจำโดยเฉพาะบริเวณฝ้าเพดานและมุมห้อง จะช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่น สิ่งสกปรกและความชื้นซึ่งเป็นอาหารของเชื้อรา ควรเช็ดทำความสะอาดและตรวจสอบว่ามีจุดอับชื้นหรือกลิ่นอับใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ การใส่ใจดูแลบ้านสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ปัญหาเชื้อราไม่กลับมากวนใจอีก

4. ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดความชื้นในห้องที่เสี่ยงเกิดเชื้อรา

ตรวจความชื้นเป็นระยะ ๆ หรือติดตั้งเครื่องตรวจวัดความชื้นในบริเวณที่มักต้องเจอความชื้นบ่อย ๆ เช่น ห้องน้ำ ห้องใต้หลังคา หรือห้องเก็บของ หากค่าความชื้นเริ่มสูงเกินระดับปลอดภัยให้รีบระบายอากาศภายในห้อง หรืออาจซื้อเครื่องลดความชื้นเพิ่มเติม

5. เลือกใช้แผ่นยิปซัมทนชื้นและกันราอย่างยิปซัมตราช้าง

สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะเปลี่ยนฝ้าผนังใหม่หรือรีโนเวทบ้าน การเลือกวัสดุที่ออกแบบมาเพื่อกันความชื้นและป้องกันราโดยเฉพาะคือตัวช่วยสำคัญของการป้องกันฝ้าเพดานเป็นเชื้อราในระยะยาว ซึ่งแผ่นยิปซัมมอยส์บล็อค ตราช้าง มีคุณสมบัติดูดซึมน้ำต่ำ ไม่แอ่น ไม่หด ไม่บวม ใช้ได้ดีในบริเวณที่มีความชื้นสูง 

และแผ่นยิปซัมโมลบล็อค ตราช้าง มีคุณสมบัติต้านราโดยตรง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดราสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ที่มีความชื้นมาก แผ่นยิปซัมทั้งสองชนิดนี้เป็นตัวเลือกที่ช่วยยกระดับการป้องกันราได้อย่างมั่นใจ


ป้องกันฝ้าขึ้นราได้ด้วยแผ่นยิปซัมคุณภาพ

บ้านที่ปล่อยให้มีฝ้าขึ้นราคือบ้านที่กำลังสะสมปัญหา อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย โครงสร้าง และสุขภาพของผู้อยู่อาศัย วิธีป้องกันและแก้ไขฝ้าเป็นเชื้อรามีมากมาย แต่วิธีหนึ่งที่ช่วยขจัดปัญหาได้ดีคือการปลี่ยนฝ้าเพดานและใช้วัสดุที่กันชื้น กันรา เช่น แผ่นยิปซัมทนชื้น ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าซ่อมเรื่อย ๆ

หากกำลังวางแผนรีโนเวทบ้านหรือกำลังก่อสร้างใหม่ เลือกใช้ฝ้าเพดานที่กันชื้นหรือกันราอย่างแผ่นยิปซัมมอยส์บล็อค ตราช้าง หรือ แผ่นยิปซัมโมลบล็อค ตราช้าง ที่ออกแบบมาเพื่อพื้นที่อับชื้น ลดปัญหาเชื้อราอย่างมีประสิทธิภาพ

หาซื้อผลิตภัณฑ์ที่สนใจได้ที่ร้านผู้แทนจำหน่ายเอสซีจีและร้านขายวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ หรือค้นหาข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่