voc คือ

เมื่อพูดถึงสาร VOC หลายคนอาจไม่รู้จักหรือไม่คุ้นเคยว่าคือสารประเภทใด แต่ความจริงแล้วสาร VOC คือสารอันตรายที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด มักพบในผลิตภัณฑ์เคมีที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สี ทินเนอร์ น้ำยาทำความสะอาด หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ใหม่ ถือเป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่างมาก 

บทความนี้จะพาไปรู้จักสาร VOC ให้ลึกขึ้นอย่างรอบด้าน ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิธีหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณสารเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน



รู้จักสาร VOCs คืออะไร และมีกี่ประเภท

สาร Volatile Organic Compounds หรือ VOC คือสารประกอบอินทรีย์ที่สามารถระเหยกลายเป็นไอหรือก๊าซได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง มักพบในผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในชีวิตประจำวันหลายชนิด เช่น สีทาบ้าน สีสเปรย์ น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาซักแห้ง น้ำยาย้อมผม ตัวทำละลาย และวัสดุก่อสร้างหลายชนิด มีคุณสมบัติระเหยกลายเป็นไอได้เร็ว ไอระเหยของสาร VOCs สามารถปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมได้ง่าย และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างรุนแรงอีกด้วย

โดยทั่วไปแล้ว สาร VOCs แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลักตามองค์ประกอบทางเคมี ได้แก่

  1. กลุ่มที่ไม่มีคลอรีนเป็นส่วนประกอบ (Non-Halogenated Hydrocarbons): เป็นกลุ่มสารอินทรีย์ในชีวิตประจำวันที่พบได้ตามแหล่งธรรมชาติหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเผาไหม้ เช่น การเผาขยะ พลาสติก การใช้สี หรือสารละลายต่าง ๆ บุคคลที่สัมผัสสารกลุ่มนี้บ่อย เช่น คนงานเตาเผา หรือนักผจญเพลิง มักเสี่ยงต่อปัญหาทางเดินหายใจ ตัวอย่างสารในกลุ่มนี้ เช่น โทลูอีน เบนซีน แอลกอฮอล์ คีโตน และน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
  2. กลุ่มที่มีคลอรีนเป็นองค์ประกอบ (Halogenated Hydrocarbons) เป็นสาร VOCs ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น มีความคงตัวสูงในสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้สลายตัวยาก และมีแนวโน้มจะสะสมในธรรมชาติหรือร่างกายมนุษย์ได้มากกว่า สารกลุ่มนี้มักมีความเป็นพิษสูง เช่น ไตรคลอโรเอทิลีน และสารทำละลายคลอรีนอื่น ๆ

ผลกระทบของ VOC คืออะไรบ้าง

ไอระเหย

สาร VOC คือมลพิษที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่กลับส่งผลกระทบรุนแรงทั้งต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ เมื่อมีการสะสมในปริมาณมาก หรือได้รับอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  • ผลกระทบด้านคุณภาพอากาศ : สาร VOCs ทำให้เกิดโอโซนระดับพื้นดิน (Ground-Level Ozone) ซึ่งเป็นมลพิษที่ก่อให้เกิดหมอกควันพิษและฝุ่น PM2.5 ส่งผลต่อคุณภาพอากาศในเขตเมืองหรือบริเวณแหล่งอุตสาหกรรมให้แย่ลง
  • ผลกระทบด้านคุณภาพดิน : สาร VOCs ที่ซึมลงสู่ชั้นดินจะทำให้ดินปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในดิน เช่น แบคทีเรียที่จำเป็นต่อการย่อยสลายสารอินทรีย์ตามธรรมชาติ
  • ผลกระทบด้านคุณภาพน้ำ : สาร VOCs ที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำอาจทำให้น้ำเกิดการปนเปื้อนจนเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ และทำให้คุณภาพน้ำแย่ลง หากสะสมในระบบน้ำดื่มของชุมชนก็อาจกลายเป็นภัยเงียบที่ยากต่อการตรวจสอบในเบื้องต้น

ผลกระทบต่อสุขภาพ

มนุษย์สามารถรับสาร VOCs ได้จาก 3 ทาง คือ การหายใจ การสัมผัส และการกิน เมื่อได้รับสาร VOCs เข้าไปในปริมาณมากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งระดับความรุนแรงและอาการจะแตกต่างกันไปตามชนิดของสาร VOCs

  • การหายใจ : การสูดดมสาร VOCs เข้าไปในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการแสบจมูก ไอ จาม เวียนศีรษะ บางรายที่อาการหนักจะมีภาวะหายใจติดขัด หากได้รับสาร VOCs สะสมต่อเนื่องในระยะยาวจะมีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ หรือแม้แต่โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
  • การสัมผัส : หากสัมผัสโดนสาร VOCs ในบุคคลที่แพ้หรือผิวหนังบอบบางอาจเกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง เกิดผื่นคัน แสบร้อน เกิดแผลพุพอง แผลไหม้ ผิวหนังแห้ง หากเข้าตาอาจทำให้เกิดอาการตาระคายเคือง แสบตา ตาแดง ปวดตา ไปจนถึงประสิทธิภาพการมองเห็นลดลง
  • การกิน : แม้จะมีโอกาสได้รับน้อยที่สุด แต่หากเผลอทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของสาร VOCs อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง อาเจียน ในกรณีที่มีสาร VOCs สะสมในตับและไตอาจส่งผลต่อการทำงานของอวัยวะเหล่านั้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังหรือโรคมะเร็งในระยะยาว

มาตรฐานของสาร VOC มีอะไรบ้าง

เนื่องจากสาร VOC คือสารที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม หลายประเทศจึงได้กำหนดมาตรฐานในการควบคุมระดับความเข้มข้นของสารเหล่านี้ในอากาศ หรือในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อควบคุมและเฝ้าระวังสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ไม่ให้มีการปล่อยสาร VOCs ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวของประชาชน

สำหรับประเทศไทยมีหน่วยงานที่ควบคุมดูแลเกี่ยวกับสาร VOCs คือกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งได้มีการกำหนดมาตรฐานของสาร VOCs ไว้ 2 มาตรฐาน ได้แก่ ค่ามาตรฐานสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไปในเวลา 1 ปี และ ค่าเฝ้าระวังสำหรับสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศโดยทั่วไปในเวลา 24 ชั่วโมง ทั้ง 2 มาตรฐานเป็นค่ามาตรฐานที่ใช้ในการเฝ้าระวังสาร VOCs ในบรรยากาศ ถูกใช้เพื่อควบคุมสินค้าและผลิตภัณฑ์เคมีไม่ให้มีการปล่อยสาร VOCs ในปริมาณเกินค่าที่กำหนด 

นอกจากมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษแล้ว ประเทศไทยยังมีมาตรฐานการตรวจวัดสาร VOCs และการแสดงค่าบนฉลากสินค้าอีกหลายมาตรฐานจากหลาย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น


ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว ตัวเลือกที่ช่วยลดผลกระทบของสาร VOCs

VOC

ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว คือผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ว่าผ่านเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิต การใช้งาน และการกำจัดหลังหมดอายุ โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากเขียวมักเป็นสินค้าหรือวัสดุรักษ์โลกที่มีการควบคุมปริมาณสาร VOCs ให้อยู่ในระดับต่ำกว่าค่ามาตรฐาน หรือไม่มีการใช้สารกลุ่มนี้เลย 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองฉลากเขียวในปัจจุบันมีหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ เป็นต้น รวมถึงสินค้ากลุ่มสำคัญอย่างวัสดุสร้างบ้าน เช่น สีทาบ้าน วัสดุก่อผนัง วัสดุปูพื้น กระเบื้อง ปูนซีเมนต์ เครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก เป็นต้น 

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียวจึงถือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากสาร VOCs ทั้งทางการหายใจและการสัมผัสโดยตรง และยังเป็นการลดผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ ดิน และน้ำในระยะยาวอีกด้วย


VOC คือสารที่ต้องรู้จักก่อนเลือกใช้วัสดุในบ้านและอาคาร

สาร VOC คือสารอันตรายที่ปะปนอยู่ในหลากหลายผลิตภัณฑ์รอบตัวเรา แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สารเหล่านี้ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์เป็นอย่างมาก หนึ่งในวิธีที่ช่วยลดปริมาณสาร VOC คือการเลือกใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีฉลากหรือได้รับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ

หนึ่งในวัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพและช่วยลดผลกระทบจากสาร VOC คือ ระบบยิปซัมแอร์ทัฟ ตราช้าง โซลูชันวัสดุก่อสร้างที่มาพร้อมนวัตกรรมฟอกอากาศภายในอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ แผ่นยิปซัมแอร์ทัฟ ตราช้าง ที่ผสานคุณสมบัติการดูดซับและการปล่อยประจุลบเพื่อกำจัดสาร VOC ในอากาศ เมื่อสัมผัสกับพื้นผิวของแผ่น และสีทาแผ่นยิปซัมแอร์ทัฟ ตราช้าง เป็นสีทาแผ่นยิปซัมเกรดพรีเมี่ยมสูตรนํ้าที่มีคุณสมบัติปล่อยประจุลบเพื่อกำจัดสาร VOC โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ยังสามารถยับยั้งแบคทีเรียในอากาศและกำจัดเชื้อไวรัสไดถึง 99.99% ช่วยให้อากาศภายในบ้านสะอาด ปลอดภัย ไร้เชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้ร่างกายสดชื่น เหมาะสำหรับงานผนังและงานฝ้าภายในอาคารที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ 

หาซื้อผลิตภัณฑ์แผ่นยิปซัมแอร์ทัฟ ตราช้าง และ สีทาแผ่นยิปซัมแอร์ทัฟ ตราช้าง ได้ที่ร้านผู้แทนจำหน่ายเอสซีจีและร้านขายวัสดุก่อสร้างชั้นนำทั่วประเทศ หรือค้นหาข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่